• 24
  • ธ.ค.
  • 0
ขั้นตอนสู่การเป็นหมอที่อังกฤษ
Author

ขั้นตอนสู่การเป็นหมอที่อังกฤษ-สำหรับนักเรียนนอก

การเป็นหมอนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ถึงแม้ว่าจะเรียนจบปริญญาด้านนี้มา แต่นั่นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะหมอที่ดีจะต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปีตลอดเวลาที่ทำงาน ยิ่งสำหรับคนที่ต้องการไปทำงานเมืองนอกหลังจากที่เรียนจบด้วยแล้วก็จะต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่เรื่อย ๆ

ในขณะที่อังกฤษก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เป็นจุดหมายที่แพทย์หลายคนต้องการจะไปเรียนต่อ หรือทำงานที่นั่น ซึ่ง Lin’s Thailand จะมาแนะนำขั้นตอนสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานเป็นแพทย์ที่ประเทศอังกฤษ ว่าจะต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง

1. วางแผนการเรียนล่วงหน้า

ขั้นแรกเลยอันนี้ก็คือต้องเรียนในโรงเรียน มหาวิทยาลัยด้านการแพทย์หรือคณะแพทยศาสตร์ โดยการค้นหาหลักสูตรนั้นจะต้องศึกษาดูด้วยว่าหลักสูตรการเรียนนั้นเหมาะสมกับความต้องการของเราด้วยหรือไม่ เพราะการเรียนแพทย์ที่ทั้งในหลักสูตร MD และ MBBS เราจะต้องมบมวนหลักสูตรให้ดีว่ามีวิชาเรียนใดบ้าง รวมทั้งจะต้องศึกษาเงื่อนไขในการเข้าเรียนด้วย เช่น จะต้องจบการศึกษาตอนปลาย เกรดเท่าไหร่ หรือถ้าจะสอบเทียบก็อาจจะต้องเป็น A levels หรือวุฒิ GED ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัย

รวมไปถึงเรื่องของการฝึก Internship จะต้องตรวจสอบดูให้ดีว่าเรามีโอกาสฝึก Internship ที่มหาวิทยาลัยที่เรียน หรือในโรงพยาบาลอื่น ๆ หรือไม่ซึ่งนักเรียนแพทย์ชาวไทยจะต้องผ่านการฝึก Internship อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรียนแพทย์ในไทยหรือ “แพทย์ต่างประเทศ” เพราะจะต้องใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการสมัครขั้นตอนถัด ๆ ไป


2. เรียนในมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองจากอังกฤษ

สำหรับการเรียนในแพทย์ในมหาวิทยาลัยของอังกฤษนั้น ทุกที่จะได้รับการรับรองหลักสูตรจาก General Medical Council ของอังกฤษ ซึ่งผู้เรียนจะมั่นใจได้ว่าการเรียนจะได้มาตรฐานอังกฤษ หรือหากจะเลือกเรียนในต่างประเทศจะต้องดูมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากอังกฤษเสียก่อน เพราะการเรียนหมอในประเทศอังกฤษนั้นจะต้องเรียนในระบบ Problem Based Learning Curriculum ซึ่งผู้เรียนจะต้องเรียนด้วยตัวเองค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงต้องเป็นผู้เรียนที่ Active พอสมควร

ผู้ที่ต้องการเรียนแพทย์ในประเทศอังกฤาเลย ผู้เรียนจะต้องสอบ UK Clinical Aptitude Test (UKCAT) เพื่อใช้ในการสมัครเข้าเรียน ข้อสอบจะประกอบไปด้วยวิชา Quantitative Reasoning, Abstract Reasoning และ Verbal Reasoning ซึ่งจะเห็นได้ว่าข้อสอบนั้นไม่มีวิชาวิทยาศาสตร์ที่หนัก ๆ เลย เพียงแต่ผู้เรียนจะต้องเป็นผู้ที่ใช้เหตุผลได้อย่างดีเยี่ยม แต่บางมหาวิทยาลัยก็อาจจะให้ผู้เรียนสอบ BMAT เช่นเดียวกัน

แต่การเรียนในต่างประเทศก็สามารถเข้าทำงานเป็นแพทย์ที่ประเทศอังกฤษได้เช่นเดียวกัน โดยให้พิจารณาดูเงื่อนไขมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่สามารถทำงานที่อังกฤษได้ หนึ่งในนั้นคือประเทศโปแลนด์ หากใครไปเรียนแพทย์ที่โปแลนด์ก็หมดห่วงเรื่องนี้ไปได้เลย สามารถทำงานที่อังกฤษได้แน่นอน


3. สอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ของอังกฤษให้ได้

สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบวิชาชีพแพทย์ในอังกฤษไม่ว่าจะเป็นในโรงพยาบาล หรือคลินิกเอกชนก็ต้องมีใบมนุญาตทำงานให้ถูกกฎหมายเสียก่อน โดยการสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ของอังกฤษ ซึ่งมีผู้ดูแลคือ General Medical Council (GMC)


ต้องผ่านแบบทดสอบภาษาอังกฤษก่อน

สำหรับผู้ที่เรียนแพทย์ในประเทศอังกฤษหรือเรียนต่อ หรือทำงาน จะต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่าง International Language Test System (IELTS) หรือ the Occupational English Test (OET)

– โดยผู้ที่จะสอบ PLAB ได้ จะสอบ International English Language Testing System (IELTS) ที่คะแนน 7.5 ซึ่งแต่ละพาร์ททั้ง 4 พาร์ท ฟัง พูด อ่าน เขียนจะต้องได้คะแนน 7.0 ขึ้นไปอีกด้วย

– สำหรับข้อสอบ OET จะเป็นข้อสอบที่รวบรวมสถานการณ์ที่แพทย์มักจะต้อง รวมถึงมีคำศัพท์เกี่ยวกับแพทย์ค่อยข้างมาก ผู้สอบจะต้องสอบได้มากกว่าระดับ B ขึ้นไปจึงจะถือว่าผ่าน


ข้อสอบ Professional and Linguistic Assessment Board (PLAB)

ผู้ที่เรียนจบแพทย์จากนอกประเทศอังกฤษทุกคนจะต้องสอบ PLAB ให้ผ่าน ซึ่งข้อสอบจะเป็นการวัดทักษะความรู้ ความสามารถรวมไปถึงความสามารถด้านการสื่อสารสำหรับการทำงานในประเทศอังกฤษ ข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท โดยในส่วนแรกนั้นจะเป็นข้อสอบแบบ multiple choice 180 ข้อ ทดสอบเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พื้นฐาน และความรู้ทางการแพทย์ ซึ่งจะให้เวลาสอบทั้งหมด 3 ชั่วโมง สามารถสอบได้จากศูนย์สอบที่ตั้งอยู่ในหลายประเทศ

แต่สำหรับขั้นตอนที่ 2 จะต้องสอบที่ประเทศอังกฤษเท่านั้น เพราะจะเป็นข้อสอบความรู้ด้านคลินิกเชิงโครงสร้างแบบมีวัตถุประสงค์ หรือ objective structured clinical exam (OSCE). เมื่อผ่านการทดสอบแล้วก็สามารถที่จะไปขึ้นทะเบียนเพื่อขอฝึกในโรงพยาบาลอีกสองปีต่อได้เลย


สอบ PLAB ผ่านแล้วทั้ง 2 ขั้นตอนแล้วทำอย่างไรต่อ

หลังจากสอบ PLAB 1, 2 ผ่านแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการสมัครหรือลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการฝึก Foundation Programme


Foundation programme

สำหรับคนที่เรียนจบแพทย์ในประเทศอังกฤษจะต้องฝึกงานโดยเข้าร่วมกับ Foundation Programme ทันทีหลังเรียนจบเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งผู้ฝึกงานจะได้ใช้ความรู้ความสามารถของตนในการรักษาคนไข้ หลังจากฝึกงานครบ 2 ปีก็สามารถเลือกเรียนต่อเฉพาะทางได้


การลงทะเบียน Registration

ผู้ที่ต้องการทำงานเป็นหมอในอังกฤษจะต้องขึ้นเบียนกับ GMC เสียก่อน จากนั้นก็สอบ Licence ให้ผ่าน จึงจะมีสิทธิ์ในการทำงานด้านคลินิกและการรักษาคนไข้ที่อังกฤษได้

ประเภทการลงทะเบียน (Types of Registration)

1. การลงทะเบียนชั่วคราว (Provisional registration)

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วม Foundation Programme จะต้องลงทะเบียนชั่วคราวก่อน

คุณสมบัติของหมอที่สามารถลงทะเบียนแบบชั่วคราว (Provisional Registration)

  • จบ Foundation Programme แล้ว ปี 1 แล้ว
  • ผู้ที่เรียนคณะแพทยศาสตร์ในประเทศอังกฤษ ที่ได้รับการรับรองภายใต้ the Medical Act 1983
  • ผู้ที่เรียนจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่ได้รับการรับรองและสอบผ่าน PLAB แต่ยังไม่ได้ฝึกงาน (Internship)
  • ผู้ที่มีสัญชาติใน เขตเศรษฐกิจยุโรป หรืออีอีเอ (European Economic Area หรือ EEA) สวิสเซอร์เแลนด์ที่มีคุณสมบัติครบตามที่กำหนด

2. การลงทะเบียนแบบสมบูรณ์ (Full registration)

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแบบสมบูรณ์จะต้องจบ Foundation Programme ครับีทั้ง 2 ปีแล้วจะสามารถทำงานได้ทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ในประเทศอังกฤษ แต่สำหรับแพทย์ที่ต้องการให้คำปรึกษาคนไข้ด้วยจะต้องลงทะเบียนแบบเฉพาะทางควบคู่กันไปด้วย หรือผู้ที่ต้องการทำงานแบบแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป (General Practitioner, GP) ก็ต้องลงทะเบียนแบบ GP ด้วยเช่นกัน

สำหรับหมอท่านใดที่ไม่ได้เรียนในอังกฤษอาจจะสมัครลงทะเบียนแบบสมบูรณ์ได้เลย หากท่านเรียนในมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรอง และผ่านการฝึกงานเป็นแพทย์มาแล้วหลังเรียนจบ (Internship)

ผู้ที่จะสมัครจะต้องเตรียมเอกสารฉบับจริงเท่านั้น และจะต้องไปทำเรื่องที่ GMC ด้วยตนเองในขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและเอกลักษณ์บุคคล จากนั้นจะมีการถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานสำหรับให้นายจ้างสามารถตรวจสอบข้อมูลแพทย์ได้



ลงทะเบียนแบบเฉพาะทาง (Specialist registration)

ผู้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์จะต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนแบบแพทย์เฉพาะทางก่อน ซึ่งการลงทะเบียนแบบเฉพาะทาง แพทย์จะต้องผ่านการเทรนและรับรองจาก GMC รวมทั้งต้องได้รับประกาศนียบัตรจาก GMC  ได้แก่

  • Certificate of Completion of Training (CCT)
  • Certificate confirming Eligibility for Specialist Registration (CESR)

อยากเป็นหมอที่อังกฤษไหม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรอกรายละเอียดทิ้งไว้ได้เลย

หมอ-เรียนแพทย์ต่างประเทศ-มหาวิทยาลัยลูบลิน-เปิดรับสมัคร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

??Inbox Facebook กดเลย

☎️☎️โทร : 02-645-4084, 02-645-4085

✅✅Line : @linsmedical หรือ https://line.me/R/ti/p/%40linsmedical

จะรออะไรอีก Lin’ s #เปลี่ยนเรื่องแพทย์ให้เป็นเรื่องง่าย

Leave a Comment