• 9
  • ก.ย.
  • 0
Author

สอบใบประกอบวิชาชีพผ่านสามารถเป็นหมอที่ไทยได้เลยหรือเปล่า

เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศไทยมีมาตรฐานของวิชาชีพแพทย์อยู่ซึ่งวัดความรู้กันด้วยการสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ นั่นหมายความว่านักศึกษาแพทย์จะไม่ได้แค่ไปเรียนอย่างเดียวเท่านั้นแต่เมื่อเรียนจบครบ 6 ปีแล้วจะต้องสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ไทยให้ผ่านอีกด้วย หลังจากนั้นแพทย์จะต้องออกไปใช้ทุนในโรงเรียนพยาบาลรัฐอีก 3 ปีก่อนจะสามารถเลือกเรียนต่อหรือเลือกสถานที่ทำงานได้

เมื่อแพทยสภาไทยรับรองหลักสูตรแพทย์ต่างประเทศเพื่อรองรับความต้องการของนักเรียนที่มีความอยากเป็นแพทย์ หรือนักเรียนที่ต้องการเรียนแพทย์ในหลักสูตรภาษาอังกฤษเนื่องจากเรียนในหลักสูตรอินเตอร์มาก็ได้มีการบังคับใช้กฎเกณฑ์การสอบและการทำงานดังนี้เช่นกันเพียงแต่แพทย์ที่เรียนจบจากต่างประเทศมาจะไม่มีบังคับว่าต้องไปใช้ทุนเนื่องจากได้จ่ายทุนเต็มจำนวนไปด้วยตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว บางคนจึงมีคำถามว่าแล้วเมื่อสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ไทยผ่านแล้วจะเป็นอย่างไรต่อสามารถไปทำงานเป็นแพทย์ได้เลยหรือเปล่า แล้วถ้าสอบไม่ผ่านจะทำอย่างไร มาร่วมหาคำตอบกับ Lin’s Thailand กัน


การสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ไทยของนักเรียนต่างประเทศ

การสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ไทยนั้นประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนได้แก่

– ขั้นตอนที่ 1 สอบวัดความรู้พื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ จะสอบเมื่อนักศึกษาเรียนจบความรู้ชั้นปรีคลินิก

– ขั้นตอนที่ 2 สอบวัดความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะสอบเมื่อนักศึกษาเรียนจบความรู้ชั้นคลินิก

– ขั้นตอนที่ 3 สอบวัดความรู้ด้านการปฏิบัติจะสอบเมื่อนักศึกษาเรียนจบเรียบร้อยแล้ว

โดยทั้ง 3 ขั้นนี้จะเป็นการสอบแยกกันหมายความว่าเมื่อเรียนจบตามแต่ละช่วงชั้นแล้วก็ให้นักศึกษากลับมาสอบที่ไทยตามคุณสมบัติที่ตนเองสอบได้ แต่ถ้าหากสอบไม่ผ่านก็จะมีโอกาสในการแก้ตัวในปีถัดไปเพื่อให้สอบผ่านขั้นที่ 1 และ 2 ก่อนเรียนจบ จากนั้นเมื่อเรียนจบแพทย์จากต่างประเทศแล้ว นักศึกษาแพทย์จะต้องเข้าฝึกงานในโรงพยาบาลที่ประเทศไทยก่อนอย่างน้อย 1 ปีเพื่อให้คุ้นชินกับระบบแพทย์และโรงพยาบาลของประเทศไทย จึงจะมีสิทธิ์สอบในขั้นตอนที่ 3

สำหรับการสอบวิชาชีพแพทย์ไทยขั้นตอนที่ 3 นั้นจะมีความซับซ้อนมากกว่า 2 ขั้นแรก กล่าวคือใน 2 ขั้นตอนแรกนั้นเป็นการสอบแบบกากบาทโดยสอบในคอมพิวเตอร์ ดังนั้นทางศูนย์สอบ ศรว. จึงสามารถจัดสอบได้ทุกปีและสามารถเข้าสอบได้ทุกคน ในขณะที่ขั้นตอนที่ 3 นั้นจะมีส่วนที่ต้องสอบกับคนไข้จริงจึงต้องมีอาจารย์แพทย์เข้ามาประเมินการทดสอบโดยตรง ซึ่งอาจจะใช้เวลานานเป็นเดือนเนื่องจากต้องรอความพร้อมจากผู้สอบและคนไข้


ขั้นตอนหลังสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพของแพทย์ต่างประเทศ

หลังจากเรียนจบและสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ผ่านทั้ง 3 ขั้นตอนแล้ว สิ่งถัดมาที่ต้องทำก็คือการยื่นสมัครงานเข้าทำงานในโรงพยาบาลต่าง ๆ เพราะว่าแพทย์ที่จบจากต่างประเทศจะไม่ต้องถูกบังคับให้ไปใช้ทุนโดยการจับฉลาก ดังนั้นจึงสามารถยื่นสมัครงานในโรงพยาบาลได้อย่างอิสระเช่นเดียวกับการทำงานทั่ว ๆ ไป โดยสามารถยื่นสมัครงานได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชนทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติต่าง ๆ ที่แต่ละโรงพยาบาลมีการกำหนดเอาไว้

แต่เนื่องจากแพทย์เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต แม้แต่คนที่เป็นแพทย์เองก็มีความจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนและหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทางโรงพยาบาลต่าง ๆ จึงมักจะเปิดสอนหลักสูตรระยะสั้นเพื่อทบทวนและเสริมสร้างความรู้ต่าง ๆ ให้กับแพทย์ที่เรียนจบแล้ว บางคนก็อาจจะเลือกลงเรียนหลักสูตรเหล่านี้เพื่อเพิ่มเติมใบประกาศนียบัตรก็ได้เช่นกัน


ถ้าสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ไทยไม่ผ่านจะเกิดอะไรขึ้น

แต่ก็อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าแล้วสำหรับคนที่สอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ไทยไม่ผ่านจะเกิดอะไรขึ้น อันที่จริงแล้วสำหรับนักศึกษาแพทย์ไทยที่สอบครบทุกวิชาและเรียนจบแล้วแต่สอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ยังไม่ผ่านก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน โดยแพทย์เหล่านี้จะยังมีสิทธิ์ในการสอบใบประกอบวิชาชีพให้ผ่านหลังเรียนจบอยู่ แพทย์เหล่านี้จะสามารถไปจับฉลากเพื่อสุ่มโรงพยาบาลได้เช่นเดียวกัน การทำงานใช้ทุน 3 ปีนับจากวันแรกเริ่มใช้ทุน เพียงแต่ไม่สามารถเซ็นชื่อในใบสั่งยาได้เพราะยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา จึงต้องวินิจฉัยโรคแล้วให้เพื่อนที่เป็นแพทย์ที่มีใบอนุญาตเป็นผู้ลงชื่อให้แทน แต่ไม่สามารถอยู่เวรได้ ดังนั้นก็จะมีเวลามากขึ้นในการเตรียมตัวสอบครั้งต่อไป

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเพราะมีคนหลายคนที่ต้องสอบใบประกอบวิชาชีพหลังเรียนจบอยู่เหมือนกันและการทำงานแพทย์ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ในการลงมือปฏิบัติไม่ใช่ว่าสอบทฤษฎีอย่างเดียวจบมาแล้วจะเป็นแพทย์ที่เก่งได้เลย ในระหว่างนี้ก็ควรที่จะต้องสอบถามเพื่อน ๆ ที่สอบผ่านให้มาก ๆ เพื่อหาแนวทางในการสอบให้ผ่าน


ไปเรียนแพทย์ต่างประเทศจะสอบใบประกอบวิชาชีพแพทยไทยผ่านหรือเปล่า


สำหรับนักศึกษาแพทย์จากต่างประเทศที่ยังสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ไทยไม่ผ่านจะมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างออกไปเล็กน้อยคือในระหว่างนี้เราไม่ได้ต้องไปใช้ทุนก็จะมีเวลาในการอ่านหนังสือมากกว่าใคร ๆ ดังนั้นจึงต้องตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องสอบให้ผ่านภายใน 1 ปีเพื่อให้มีประวัติทางการศึกษาที่ดีละในระหว่างนี้อาจจะเลือกฝึกงานในโรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อซึมซับประสบการณ์ในการทำงานเอาไว้ด้วย


ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรอกรายละเอียดทิ้งไว้ได้เลย

หมอ-เรียนแพทย์ต่างประเทศ-มหาวิทยาลัยลูบลิน-เปิดรับสมัคร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

??Inbox Facebook กดเลย

☎️☎️โทร : 02-645-4084, 02-645-4085

✅✅Line : @linsmedical หรือ https://line.me/R/ti/p/%40linsmedical

จะรออะไรอีก Lin’ s #เปลี่ยนเรื่องแพทย์ให้เป็นเรื่องง่าย

Leave a Comment